อาหารแก้ปวดประจำเดือน

.

.

ปวดประจำเดือน อาการที่สุดแทนจะทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก สาว ๆ หลายคนต้องเผชิญกับปัญหานี้บ่อยครั้งเมื่อถึงรอบประจำเดือนมา และสาว ๆ จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่เลือกบรรเทาอาการปวดด้วยการทานยาแก้ปวด ซึ่งจากคำบอกเล่าของคนจำนวนไม่น้อยต่างบอกว่าการทานยาแก้ปวดนั้นไม่ได้ทำให้ อาการปวดดีขึ้นเลยหากเลือกยาทานที่ไม่เหมาะสม วันนี้เราเลยมีอีกหนึ่งวิธีซึ่งนอกจากการทานยาบรรเทาปวดแล้ว การทานอาหารบางชนิดก็สามารถบรรเทาอาการปวดได้ด้วยเช่นกัน แต่จะมี อาหารแก้ปวดประจำเดือน อะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยดีกว่า 

แนะนำ 6 อาหารแก้ปวดประจำเดือน มีอะไรบ้าง

อาหารแก้ปวดประจำเดือน มีอะไรบ้างหลายคนก็อาจจะคุ้นเคยกับอาหารบ่งชนิดกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่ง อาหารแก้ปวดประจำเดือน นั้นก็จะมีอยู่หลากหลายชนิดด้วยกัน เพราะฉะนั้นสาว ๆ คนไหนที่รู้สึกว่าทานยาบรรเทาปวดแล้วอาการ ปวดประจำเดือน ไม่ดีขึ้นเลย เราอยากให้คุณได้ลองทานอาหารต่อไปนี้กันดู ซึ่งอาจจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว 

1.ชาคาโมมายล์

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า ในชาคาโมมายล์นั้นจะมีคุณสมบัติแก้อักเสบ และแก้อาการปวดเกร็งได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากดื่มในช่วงที่ปวดประจำเดือน จะช่วยบรรเทาให้อาการทุเลาลงได้ดีทีเดียว นอกจากนี้แล้วการดื่มชาคาโมมายล์ร้อน ๆ ยังช่วยให้รู้สึกสบายตัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย จึงทำให้ชาคาโมมายล์เป็นหนึ่งใน อาหารแก้ปวดประจำเดือน ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก 

2.ขิง

ขิงเป็นสมุนไพรที่ควรค่าแก่การกินตอนมีประจำเดือนมาก ๆ  เพราะมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวด ช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกอึดอัดระหว่างเป็นประจำเดือน และยังช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสียได้ด้วยเช่นกัน จึงทำให้เป็น อาหารแก้ปวดประจำเดือน ที่หลายคนเลือกทานในวันที่มีประจำเดือน 

3.โหระพา

ในใบโหระพาจะมีกรดคาเฟอิก หากปวดประจำเดือนมาก ๆ ให้นำใบโหระพา 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำร้อน 1 ถ้วย ปิดให้สนิทรอจนเย็น แล้วดื่มทุก ๆ ชั่วโมงจะช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ได้ดีทีเดียว

4.มะละกอ

มะละกอ อาหารแก้ปวดประจำเดือน ที่มาพร้อมกับสารอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็น แคโรทีน เหล็ก แคลเซียม วิตามินเอและซี โดยมีส่วนช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำให้การกินมะละกอ ก่อนเป็นประจำเดือนช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้ดีมาก ๆ 

5.กรดไขมันโอเมก้า 6

กรดไขมันโอเมก้า 6 อาหารแก้ปวดประจำเดือน ที่มีคุณสมบัติสามารถช่วยลดอาการปวดท้องช่วงมีประจำเดือนได้เป็นอย่างดี โดยกรดไขมันโอเมก้า 6 จะมีอยู่ในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ถั่ว และเมล็ดพืชต่าง ๆ

6.เนื้อผลา ผักใบเขียว 

เนื้อปลา ผักใบเขียว และดาร์กช็อกโกแลต ล้วนเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยแม็กนีเซียม ที่มีส่วนช่วยแก้อาการปวดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี เพราะแมกนีเซียมช่วยป้องกันการหดเกร็งของกล้ามเนื้อในช่วงที่มีประจำเดือนได้นั่นเอง 

อาหารที่ไม่ควรกิน เมื่อมีประจำเดือน

สำหรับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างที่กำลังมีประจำเดือนนั่นก็คือ อาหารที่มีรสจัด เครื่องดื่มแอลกอฮฮล์ คาเฟอีน เพราะจะส่งผลกระทบตต่อสุขภาพได้นั่นเอง 

วิธีบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน

หลังจากที่ได้ทราบกันไปแล้วว่า อาหารแก้ปวดประจำเดือน นั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งบางอาหารก็สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดให้กับหลาย ๆ คนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่นอกจากนี้ก็ยังมีวิธีบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนอื่น ๆ ให้คุณได้ปฏิบัติตามอีกมากมายดังนี้ 

• รับประทานยาต้านการอักเสบชนิดไม่มีสเตียรอยด์ โดยควรรับประทานเมื่อเริ่มมีอาการปวด หรือก่อนมีอาการปวด ในส่วนของการรับประทานยาแก้ปวดนั้น อาจมีผลข้างเคียงดังนั้นหากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาประเภทนี้จะดีกว่า และควรใช้เมื่อมีอาการปวดอย่างรุนแรงเท่านั้น

• วิธีบรรเทาอาการปวดประจำเดือนให้คุณใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบที่บริเวณท้องน้อย และหลัง หลีกเลี่ยงการอาบน้ำเย็น แต่ให้อาบน้ำอุ่นแทน 
• จิบเครื่องดื่มอุ่นๆ นอกจากการสัมผัสความร้อนจากภายนอกโดยการประคบร้อนแล้ว การปรับให้ภายในร่างกายอุ่นขึ้นด้วยการจิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ ก็ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนได้เช่นกัน อาจจะเป็น น้ำอุ่นธรรมดา น้ำผึ้งผสมมะนาว หรือน้ำขิงอุ่น ๆ ก็ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้ดีมาก ๆ 
• นวดที่บริเวณท้องน้อยเบา ๆ หากยังมีอาการปวดท้องประจำเดือนคุณสามารถบรรเทาอาการปวดด้วยตนเองคือ การนวดบริเวณท้องน้อยเบา ๆ ซึ่งให้นวดวนเป็นวงกลมเพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณท้องผ่อนคลายลง อาการปวดประจำเดือนก็จะค่อย ๆ ทุเลาลง หากทำร่วมกับการดื่มน้ำอุ่น หรือการประคบร้อนก็จะช่วยลดอาการปวดให้หายได้เร็วยิ่งขึ้น พร้อมกับนอนพักผ่อนอาการปวดก็จะหายไปในที่สุด 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีแก้อาการปวดท้องประจำเดือนในผู้หญิงอย่างเรา เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่มีอาการปวดท้องประจำเดือน แล้วทานยาไม่หายสามารถลองนำวิธีต่าง ๆ ที่เราได้แนะนำไปข้างต้นไปใช้ได้เลย รับรองเลยว่าจะต้องสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้ดีในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามหากใครที่มีอาการที่รุนแรงแนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์และรับการรักษาอย่างถูกต้องจะดีกว่า เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการที่รุนแรงนั่นเอง 

บทความแนะนำเพิ่มเติม

1. ลดอาการปวดประจำเดือน ง่ายๆ ด้วยกล้วยหอม!!

2. 5 วิธีบรรเทาอาการปวดประจำเดือน โดยไม่ต้องพึ่งยา

3. ปวดท้องหน่วง ๆ ก่อนเป็นประจําเดือน อันตรายไหม บรรเทาได้อย่างไร

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team