รู้หรือไม่ภูมิคุ้มกันของลูกสร้างได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

07 February 2020
4347 view

ภูมิคุ้มกันเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันเชื้อโรคหรือโรคให้กับลูก การมีภูมิคุ้มกันที่ดีย่อมช่วยให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรง ภูมิคุ้มกันนั้นมีทั้งที่สร้างได้เองและต้องรับเข้ามา แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วภูมิคุ้มกันนั้นถูกสร้างมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์แล้ว แต่จะเกิดในช่วงไหนนั้น เรามาหาคำตอบกันค่ะ

ภูมิคุ้มกันของลูกสร้างได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

อย่างที่เกริ่นกันไปแล้วว่าภูมิคุ้มกันของลูกนั้น เริ่มมีตั้งแต่อยู่ในครรภ์แล้ว ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันที่ลูกสร้างได้เองและเกิดขึ้นในช่วงอายุครรภ์ได้ 5 สัปดาห์ แต่ยังสร้างได้น้อยมาก เนื่องจากเริ่มมีการเจริญของอวัยวะน้ำเหลือง(1) ที่มีบทบาทในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดังนั้นลูกจึงต้องได้รับภูมิคุ้มกันจากแม่ที่ส่งผ่านทางรก ซึ่งภูมิคุ้มกันนี้ยังคงมีอยู่ และคอยเป็นเกราะป้องกันเชื้อโรคให้กับลูกหลังคลอด

ภูมิคุ้มกันหลังคลอดได้มาจากไหน? แม่ๆ รู้ไหม?

ภูมิคุ้มกันหลังคลอดเป็นภูมิคุ้มกันที่ลูกน้อยได้รับเข้ามา ได้จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคตั้งแต่แรกเกิด เช่น วัคซีนวัณโรค ตับอักเสบชนิดบี ไอกรน บาดทะยัก นอกจากนี้ลูกยังได้ภูมิคุ้มกันจากน้ำนมแม่ เพราะน้ำนมแม่มีระบบการสร้างน้ำนมแบบอะโพไครน์ที่ให้สารอาหารจากธรรมชาติสูง ช่วยสร้างภูมิต้านทานและช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตด้านต่างๆ ของลูก รวมทั้งมีสารอาหารหลายชนิดที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตทั้งด้านสมองและร่างกาย แต่หลังจาก 6 เดือน ภูมิคุ้มกันจากนมแม่จะลดลง ซึ่งลูกจะเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่ายมาก ดังนั้นการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกจึงต้องเป็นหน้าที่สำคัญของแม่

3 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกรัก

การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ทุกคน และคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกได้ ตามนี้

1. ฉีดวัคซีนพื้นฐานให้ครบทุกตัวตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
2. ให้ลูกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ดูแลสุขอนามัยให้กับลูก เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ พาลูกออกกำลังกาย ทำกิจกรรมที่ไม่หนัก เช่น วิ่ง เดิน หลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศ ไม่มีฝุ่น PM 2.5 หรืออยู่ในที่ ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อป้องกันให้ลูกห่างไกลจากภูมิแพ้ หรือโรคที่อาจเกิดขึ้นจากเชื้อโรคที่มากับอากาศ 
3. ให้ลูกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ เช่น รับประทานผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ข้าว ในปริมาณที่เหมาะสม และที่ขาดไม่ได้เลยคือการเลือกนมให้ลูกดื่ม เพราะถึงแม้นมแม่จะมีภูมิคุ้มกันลดลงหลังจาก 6 เดือน แต่ก็ยังมีประโยชน์และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกได้อีกทาง รวมทั้งนมชนิดอื่นๆ ในท้องตลาดด้วยเช่นกัน แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่านมชนิดใดมีภูมิคุ้มกันให้กับลูกได้ดีเหมือนนมแม่ วิธีง่ายๆ เลยค่ะ...คุณแม่ลองนำนมแต่ละชนิดมาเทียบเคียงคุณสมบัติ เพื่อดูว่านมชนิดไหนมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับนมแม่ก็ได้นะคะ ซึ่งนมในท้องตลาดที่เป็นที่นิยมและมีประโยชน์ใกล้เคียงกับนมแม่ก็มี นมแพะ เพราะนมแพะมีกระบวนการสร้างน้ำนมแบบอะโพไครน์เหมือนกับนมแม่ จึงทำให้นมแพะมีสารอาหารจากธรรมชาติหรือเรียกว่า “ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์” ไม่ว่าจะเป็น ทอรีนช่วยให้การทำงานของจอประสาทตาดี นิวคลีโอไทด์ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย โพลีเอมีนส์ช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารมีความสมบูรณ์ และโกรทแฟคเตอร์ช่วยในการเจริญเติบโตที่สมวัย

เห็นไหมคะว่าภูมิคุ้มกันของลูกถูกสร้างและได้รับมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ และได้รับเพิ่มจากการดื่มนมแม่ แต่ก็อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการเมื่อลูกโตขึ้น แม่ๆ จึงต้องช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกด้วยการพาลูกฉีดวัคซีน ดูแลสุขภาพของลูกให้แข็งแรง ให้ลูกทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ รวมทั้งให้ลูกดื่มนมแม่หรือนมที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับลูก อย่างนมแพะ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณแม่ไม่ควรพลาดนะคะ แล้วกลับมาพบกับสาระดีๆ จาก Mamaexpert ในโอกาสหน้าค่ะ

เรียบเรียงโดย : Mamaexpert Editorial Team

อ้างอิง :

  1. ประโยชน์ของนมแพะ.เข้าถึงได้จาก https://www.dgsmartmom.com/benefits-of-product/.[ค้นคว้าเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2563]
  2. อติโรจน์ ปพัฒน์เปรมสิริ.ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย.เข้าถึงได้จาก https://www.scimath.org/lesson-biology/item/7027-2017-05-21-08-44-33.[ค้นคว้าเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2563]