สูตินรีแพทย์แนะนำคุณแม่เตรียมความพร้อมด้านสารอาหาร โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนก่อนการตั้งครรภ์และในช่วง 1-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ควรได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่เหมาะสมและเพียงพอ ได้แก่ กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก แคลเซียม และไอโอดีน เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดความผิดปกติโดยกำเนิดของทารก คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการวางแผนตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย และเพื่อให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรง

การวางแผนโภชนาการและการเสริมอาหารในทุกระยะ ตั้งแต่การวางแผนตั้งครรภ์ไปจนถึงการสิ้นสุดระยะให้นมบุตร เป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ควรให้ความสำคัญ ตามคำแนะนำจากสถาบันชั้นนำระดับสากล เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) สหพันธ์สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยานานาชาติ (FIGO) ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) และสมาคมสูตินรีแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (ACOG) แนะนำให้เสริมกรดโฟลิก 400 ไมโครกรัมถึง 1 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับสตรีที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์หรือมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ (อย่างน้อย 30 วันก่อนตั้งครรภ์) และควรได้รับต่อเนื่องจนถึงสิ้นไตรมาสที่ 1 ของการตั้งครรภ์ โดยสามารถรับจากอาหารที่มีการเสริมกรดโฟลิก หรือผลิตภัณฑ์เสริมโฟลิก ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหลอดประสาทผิดปกติ เช่น spina bifida และความผิดปกติแต่กำเนิดอื่นๆ

พ.ต.อ.พญ. บงกช นราพุฒิ สูตินรีแพทย์ อนุสาขาเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โรงพยาบาลสมิติเวช กล่าวว่า ภาวะโภชนาการที่ดีและอาหารที่มีประโยชน์ เป็นปัจจัยสำคัญที่คุณแม่และคุณพ่อควรคำนึงถึง สตรีที่มีภาวะโภชนาการที่ดีกว่าในช่วงการปฏิสนธิ จะสามารถรับมือกับความต้องการของร่างกายเมื่อตั้งครรภ์ได้ดีกว่า และมีโอกาสตั้งครรภ์ (1) นอกจากนี้ หากคุณแม่ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่เพียงพอ โดยเฉพาะโฟเลต เหล็ก แคลเซียม วิตามินดี โคลีน กรดไขมันโอเมก้า-3 วิตามินบี และวิตามินซี ที่จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนที่จะมีต่อทั้งมารดาและทารกในระหว่างครรภ์ อย่างไรก็ตามคุณแม่ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อรับคำแนะนำการวางแผนตั้งครรภ์และการดูแลระหว่างตั้งครรภ์ที่เหมาะสม

ไบเออร์ไทยส่งเสริมการดูแลสุขภาพคุณแม่ในช่วงการเตรียมการตั้งครรภ์และระหว่างตั้งครรภ์

คุณไท เปง มัค ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์ บริษัท ไบเออร์ไทย กล่าวว่า ไบเออร์ ในฐานะที่เชี่ยวชาญและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ตระหนักถึงความสำคัญของคุณแม่ในช่วงการเตรียมการตั้งครรภ์และระหว่างตั้งครรภ์ว่าเป็นช่วงเวลาที่พิเศษในชีวิต ดังนั้นการดูแลสุขภาพและการได้รับสารอาหารที่เพียงพอจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสุขภาพครรภ์ที่แข็งแรงและการพัฒนาการของลูกในอนาคต

คุณพรพล พงศ์ปริตร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์เฮลธ์ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด กล่าวว่า เป้าหมายของเราที่ไบเออร์ คือ การช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพตนเองได้สะดวกมากขึ้น เราเข้าใจว่าการสนับสนุนการพัฒนาของทารกนั้น จำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอในช่วงก่อนการตั้งครรภ์เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์

ผลิตภัณฑ์ “เอเลวิต (Elevit^®)” วิตามินรวมและแร่ธาตุ สำหรับคุณแม่ก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ ใช้ป้องกันและรักษาภาวะขาดวิตามินและแร่ธาตุจากความต้องการวิตามินและแร่ธาตุที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ มีโฟลิก ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหลอดประสาทผิดปกติ เช่น spina bifida และความผิดปกติแต่กำเนิดอื่นๆ เมื่อรับประทานอย่างน้อย 1 เดือนก่อนการตั้งครรภ์และระหว่างตั้งครรภ์ นอกจากนี้ช่วยป้องกันและรักษาภาวะขาดธาตุเหล็กและโฟเลตระหว่างตั้งครรภ์

ใน 1เม็ด ประกอบด้วย วิตามินและแร่ธาตุรวมหลายชนิดที่จำเป็นต่อคุณแม่ เช่น กรดโฟลิก 800 ไมโครกรัม (ประกอบด้วย กรดโฟลิก 400 ไมโครกรัม และเมธิลโฟเลต  451 ไมโครกรัม), เหล็ก (Iron) ไอโอดีน (Iodine) และแคลเซียม โดยแนะนำให้รับประทานวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร (ไม่หักหรือแบ่งเม็ดยา) ระยะเวลาที่แนะนำคือ 1 เดือนก่อนการปฏิสนธิ (เมื่อวางแผนตั้งครรภ์) และตลอดระยะการตั้งครรภ์ เอเลวิตรวมวิตามินและแร่ธาตุถึง 19 ชนิด ได้แก่ วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, นิโคตินามายด์, วิตามินบี 5, วิตามินบี 6, ไบโอติน, วิตามินบี 9 (กรดโฟลิก), วิตามินบี 12, วิตามินซี, วิตามินดี 3, วิตามินอี, แคลเซียม, ทองแดง, ไอโอดีน, เหล็ก, แมกนีเซียม, แมงกานีส, เซเลเนียม และสังกะสี ไว้ในเม็ดเดียว ในรูปแบบเม็ดเคลือบฟิล์ม

เอเลวิต มีวางจำหน่ายที่ร้านขายยาแผนปัจจุบันชั้นนำทั่วไป

โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์บนเอกสารกำกับยา หรือ www.elevit.co.th ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร

หมายเหตุ: ยานี้ไม่สามารถขายใน e-market place ได้

เลขทะเบียนตำรับยา 2C 9/67

ใบอนุญาตโฆษณาเลขที่ 1006/2568

CH-20250715-74

อ้างอิง

• Hanson MA, Bardsley A, De‐Regil LM, et al. The International Federation of Gynecology and Obstetrics (FIGO) recommendations on adolescent, preconception, and maternal nutrition: “Think Nutrition First”# International Journal of Gynecology & Obstetrics. 2015;131:S213-53